
จากเยาวชนมุสลิมที่เกือบเข้าสู่กระบวนการ กลายเป็นผู้นำที่ใช้พื้นที่สร้างสรรค์สำหรับเด็กสร้างสันติภาพในใจคน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
“ ถ้าไม่มีวิธีการหรือสิ่งอื่นใดในการสร้างสันติภาพ ผมจะเข้าสู่กระบวนการ”
ชายหนุ่มในวัย 25 ปีที่พยายามค้นหาวิธีการสร้างสันติภาพมาตลอดชีวิตบอก
การเปิดพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับเด็กใน 3 จังหวัดว่ายากแล้ว การเปิดใจผู้คนยากยิ่งกว่า…
ฮัมดีในวัยเด็กมีโอกาสได้คลุกคลีกับคุณพ่อผู้มีจิตสาธารณะ ฮัมดีจึงซึมซับความเป็นจิตอาสามาจากคุณพ่อเต็มๆ ฮัมดี หรือ แบร์ดีของเยาวชนใต้ เป็นคนมีจิตใจดี ซื่อสัตย์ ละเอียดอ่อน มีน้ำใจ คิดบวก
มีเหตุและผล ประนีประนอม เข้าใจความหลากหลายของผู้คน เข้าถึงผู้คนชุมชน เคารพชุมชน เป็นคนให้โอกาสคน ยืดหยุ่น มองจังหวะในการเข้าพัฒนางานได้ดี เปิดกว้างไม่ติดกรอบใดๆ มีมุมมองเชิงการสร้างการเปลี่ยนแปลงสังคม มุ่งมั่นในการทำงานช่วยเหลือคนอื่น เชื่อในวิธีการสันติวิธีเพื่อสร้างสันติภาพ
เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น ฮัมดีเป็นกลายแกนนำในการทำกิจกรรรมต่างๆของโรงเรียนตั้งแต่ม.ต้น จนถึงเรียนมหาวิทยาลัย และเป็นหนึ่งในกลุ่มเยาวชนของชุมชนศรัทธาทำงานพัฒนาชุมชน
“ ผมเป็นแกนนำรวมกลุ่มเด็กต่างจังหวัดยากจนที่เข้ามาเรียนในเมืองทำกิจกรรมของมหาวิทยาลัย กิจกรรมทำให้พวกเรามีข้าวกิน เกิดการเรียนรู้ และเกิดประสบการณ์ที่หาจากบทเรียนไม่ได้ในห้องเรียน ”
จากการได้รับรู้สถานการณ์ความทุกข์ยากลำบากผู้คนของ 3 จังหวัด ฮัมดี ในวัย 25 ปี พยายามค้นหาวิธีเพื่อสร้างสันติภาพในดินแดนสามจังหวัดชายแดนใต้มาตลอดชีวิต และตั้งใจว่าถ้าไม่มีวิธีการหรือหนทางอื่นใดในการสร้างสันติภาพแล้ว เขาจะเข้าสู่กระบวนการ
ระหว่างช่วงทางสองแพร่งในอุดมการณ์ที่แน่วแน่เพื่อค้นหาวิธีการสร้างเปลี่ยนแปลงให้เกิดสันติภาพ ในปีพ.ศ. 2553 ฮัมดีอายุ 23 ปีได้เลือกเข้ามาทำงานกับมูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก ( มพด. ) ในหน้าที่การสร้างกลไกชุมชนเพื่อปกป้องคุ้มครองเด็ก และฮัมดีได้ค้นพบวิธีการที่เขาค้นหามานาน และเชื่อมั่นว่าจะนำไปสู่การสร้างสันติภาพในที่สุด
“ ในพื้นที่ 3 จังหวัดใต้การเปิดพื้นที่สำหรับเด็กเยาวชนว่ายากแล้ว แต่การเปิดพื้นที่ในใจคน( ผู้ใหญ่ )ยากยิ่งกว่า ผมเชื่อมั่นว่าการเปิดพื้นที่ เปิดโอกาสให้ผู้คนไม่ว่าเขาจะเป็นอย่างไร จะติดยา จะทำผิด หรือถูกฎหมาย จะเป็นอย่างไรก็ตาม ได้มาทำกิจกรรมร่วมกัน พูดคุยกัน แลกเปลี่ยน สร้างความสัมพันธ์ นั่นคือจุดเริ่มต้นของหนทางที่จะสันติภาพให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริง ”
“ การสื่อสารที่สร้างสรรค์ จะช่วยนำสันติภาพมาสู่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เราจะสร้างให้เด็กเยาวชนของเราเป็นนักสื่อสารที่ดี มีจิตสำนึก สื่อสารเรื่องราวที่ดีของบ้านเราสู่ผู้อื่น พลังของเยาวชนจะสร้างการเปลี่ยนแปลงและสร้างสันติภาพเกิดขึ้นในที่สุด”
ฮัมดีเป็นคนเบื้องหลังที่คอยผลักดัน ให้แนวคิดการทำงาน เปิดโอกาส สนับสนุน เป็นเพื่อนร่วมเดินทางในการสร้างกลุ่มแกนนำเยาวชนที่ให้เกิดกลุ่มอิงะกัมปง และกำลังมุ่งมั่นสร้างกลุ่มเยาวชน
จิตอาสารุ่นใหม่ทั้งในมหาวิทยาลัย ของ๓จังหวัด และนอกระบบ ภายใต้ชื่อ ธนาคารใจอาสา และฮัมดียังเป็นผู้นำทางความคิดที่ขับเคลื่อนสร้างสันติภาพด้วยการเปิดพื้นที่สำหรับเด็กเยาวชน ผลักดันให้เด็กเยาวชนเปิดพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับเด็กใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มุ่งหวังว่าการเปิดพื้นที่สร้างสรรค์
จะสร้างกระบวนการเรียนรู้ที่ยิ่งใหญ่ให้เยาวชน เป็นพื้นที่ทำกิจกรรมสร้างสรรค์ สร้างความสัมพันธ์ของผู้คนใน 3 จังหวัด และจะเกิดสันติภาพในที่สุด
สถาบันสื่อเด็กและเยาวชนร่วมกับสหพันธ์พัฒนาองค์กรชุมชนคนจนเมืองแห่งชาติ(สอช.) จัดอบรม กระบวนการ 3 ดี สื่อดี พื้นที่ดี ภูมิดี ให้กับเยาวชนจำนวน 40 คน จาก 5 เมืองประกอบด้วย ชุมแสง นครสวรรค์ ระหว่างวันที่ 19-21 เม.ย.2560 ณ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ในการอบรมมีกิจกรรมเรียนรู้เพื่อตระหนักถึงพลังสร้างสรรค์ของเยาวชน ฝึกการคิด การแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์ เห็นพลังของกลุ่ม ในการอบรมเยาวชน 3 ดี
สำนักสร้างสรรค์โอกาสและนวัตกรรม และ สำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สสส. โดย กลุ่มแผนงานสื่อสร้างสรรค์ ได้แก่ สถาบันสื่อเด็กและเยาวชน แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน แผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ สนับสนุนทุนแก่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 จัด “อบรมเชิงปฏิบัติการแก่ครูศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ภายใต้ชุด โครงการมหัศจรรย์สื่อสร้างสรรค์ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก” เพื่อเสริมทักษะและเปิดเวทีแลกเปลี่ยนการจัดกระบวนการเรียนรู้และพื้นที่สร้างสรรค์เพื่อพัฒนาเด็กเล็ก ให้เติบโตอย่างมีสุขภาวะที่ดีครบด้าน โดยกิจกรรมจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-7 กรกฎาคม 2558 ณ โรงแรมเดอะ รอยัล เจมส์ กอล์ฟ รีสอร์ท อ.ศาลายา จ.นครปฐม ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)กล่าวว่า ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเป็นพื้นที่สำคัญในการดูแลและพัฒนาเด็กช่วงวัย 2-5 ปี ซึ่งเป็นวัยที่สมองเจริญเติบโตสูงสุดกว่า 80% ของชีวิตมนุษย์ หากได้รับการพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพ จะสามารถสร้างพลเมืองที่มีคุณภาพของประเทศ มีข้อมูลการสำรวจประเมินคุณภาพศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จากองค์การยูนิเซฟ กว่า 200 แห่งทั่วประเทศ พบว่า มีเพียงร้อยละ 67 เท่านั้นที่ผ่านเกณฑ์ สสส. จึงให้ความสำคัญในเรื่องนี้ โดยเปิดโอกาสให้ครู ศพด. […]
ดร. ครรชิต ไชยโพธิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านกระเดาอุ่มแสง ได้เริ่มมาทำงานพัฒนาเด็ก เริ่มต้นจากการทำงานกับมูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก และเห็นความสำคัญที่จะพัฒนาเด็กนักเรียนโดยใช้วิธีการกระบวนการของมูลนิธิฯ เองซึ่งจะแตกต่างจากที่เราจัดการเรียนการสอนของโรงเรียน เริ่มต้นมาตั้งแต่ครั้งแรกเริ่มทำงานเรื่องภูมิปัญญาของผู้เฒ่าผู้แก่ ในเรื่องของเด็กกับผู้เฒ่าชวนกันเล่าเรื่อง โดยมีวิธีการคือให้เด็กเข้าไปสืบค้นภูมิปัญญาแล้วนำมาทำเป็นสื่อ เช่นหนังสือเล่มเล็กแล้วมีการพัฒนามาเรื่อยๆมาจนถึงที่เรากำลังทำคือการเป็นพลเมือง ความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย “ การทำงานตรงนี้เด็กได้มีการทำงานจริงฝึกปฏิบัติจริงเรียนรู้ได้ด้วยตนเองเด็กเกิดทักษะ ในกระบวนการเรียนการสอนเด็กได้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง มีการถ่ายทำสารคดี หนังสั้น ละครหุ่นเด็กได้มีการแสดงออก เด็กจะเกิดทักษะทั้งด้านพุทธิพิสัยความรู้จิตตะ คุณธรรมจริยธรรม จากกระบวนการในการจัดกิจกรรมที่ร่วมกับมูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก” รูปแบบการจัดกระบวนการของมูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็กพอได้เห็นแล้วก็อยากจะร่วมงานด้วย เราไม่ได้มองเรื่องงบประมาณเรามองในเรื่องของรูปแบบการพัฒนาเด็กการเข้าถึงเด็ก เด็กเกิดทักษะการเรียนรู้ต่างๆ กระบวนการเหล่านั้นมาได้เชื่อมโยงระหว่างเด็กโรงเรียนชุมชนภูมิปัญญาท้องถิ่นมีการเชื่อมโยงกันในการจัดกิจกรรม ทำให้เด็กรู้จักรากเหง้าตนเองรู้จักตนเองรู้จักภูมิปัญญาศิลปะวัฒนธรรมของชุมชนในท้องถิ่นของตนเอง เองการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้ทำให้เด็กเกิดสำนึกรักบ้านเกิด ที่สำคัญคือเรื่องของคุณธรรมจริยธรรมความรับผิดชอบ มันจะได้ทั้งโรงเรียนชุมชนภูมิปัญญา ความเป็นจริงแล้วในการจัดกระบวนการเรียนการสอนของโรงเรียนก็เหมือนกับของมูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็กเพียงแต่ว่า ความลึกจะต่างกัน จะได้ความลึกได้ทักษะรู้ในเชิงลึกแต่รูปแบบกระบวนการความชัดเจนต่างกันสิ่งที่เกิดขึ้นกับเด็กสิ่งที่เห็นได้ชัด เด็กที่ผ่านกระบวนการนี้เราทำมา 4-5ปี จะเห็นในเรื่องของความรับผิดชอบ การเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน จะพวกนี้จะเห็นชัด เด็กจะมีทักษะชีวิตทักษะอาชีพ สามารถที่จะอยู่ในสังคมได้อย่างดี ชุมชนกับโรงเรียนจะกลมกลืนทำงานไปด้วยกันจะใช้ภูมิปัญญาซึ่งกันและกันระหว่างโรงเรียนกับชุมชนโรงเรียนเรียนรู้จากภูมิปัญญาพื้นบ้าน เด็กเรียนรู้ในโรงเรียนครูเกิดการพัฒนาวิธีการถ่ายทอดความรู้ใหม่ใหม่จากวิทยากร กิจกรรมเด่นๆ เริ่มจากกิจกรรมเด็กกับผู้เฒ่าชวนกันเล่าเรื่อง เราได้ให้เด็กได้เรียนรู้วิธีการสืบค้นภูมิปัญญาในชุมชนมาทำเป็นหนังสือเล่มเล็ก ต่อมาเราทำในเรื่องของสื่อสารสร้างสรรค์เกษตรอินทรีย์วิถีพอเพียงเด็กจะได้ทักษะความรู้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการถ่ายทำหนังสั้นสารคดีซึ่งเราสามารถเผยแพร่ผลงานของเรา ออกสู่สาธารณะชนไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสารคดีที่ได้ออกทางทีวีทำให้หลายหลายที่รู้จักโรงเรียนเราผลงานของนักเรียนเรารู้จักสิ่งดีดีนำงามของโรงเรียน ต่อจากนี้ที่เราจะทำ คือเรื่องของความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย เรานำความเป็นพลเมืองนี้มาบูรณาการ จัดการเรียนการสอน ทุกสาระของโรงเรียนเรา […]
สถาบันสือเด็กและเยาวชน ร่วมกับกลุ่ม We are Happy จัดสัมมนา “คู่มือครูพัฒนาพลเมืองเด็ก หนังสือช่วยเด็กสร้างโลก” เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2557 ณ ห้องประชุม 202 อาคารดร.สิโรจน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต กรุงเทพฯ การจัดสัมมนาขึ้นครั้งนี้เพื่อเผยแพร่และส่งมอบหนังสือ ช่วยเด็กสร้างโลก โดยให้ข้อมูลในการ เผยแพร่ และสาธิตกระบวนการถ่ายทอดอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ และเพื่อพัฒนาครูแกนนำจำนวน 25 คนในศูนย์เด็กเล็กแกนนำให้สามารถ อธิบาย และนำคู่มือไปขยายผลได้ในกลุ่มเครือข่ายต่อไป