
“ สื่อมีเยอะ และมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยก็เข้ามาเยอะแยะ ทีวีที่มีช่องที่มีการ์ตูนทั้งวัน ถ้าพ่อแม่ปล่อยให้เด็กอยู่กับทีวี เด็กก็จะติด และสิ่งเหล่านี้แหละที่จะดึงจินตนาการของเด็กหายไป”
พี่โก๋ หรือ จันทรกานทิยมภา กลุ่มหนอนไม้อดีตสมาชิกกลุ่มมะขามป้อมที่ทำงานด้านละครเพื่อการพัฒนา ได้ผันชีวิตตัวเองออกไปทำกิจกรรมอิสระเพื่อพัฒนาเด็ก
มาดูกันว่าในนิทานมีอะไร
ถ้านึกย้อนไปตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายายนิทานถือว่าเป็นความสุขของเด็ก เพราะเป็นสายใยสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ลูกถ้ามาโรงเรียนก็จะเป็นครูกับลูกศิษย์ เราจะใช้ตัวนิทานสอนเด็ก พอเด็กได้ฟังสอนเรื่องอะไรเด็กก็จะเชื่อในนิทาน แต่ในนิทานมักมีความเชื่อหลายอย่าง นิทานพื้นบ้านที่นำมาสอนเด็กได้
“การที่พ่อแม่อ่านหนังสือให้เด็กฟังตั้งแต่เด็กเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้เด็กรักในนิทาน พอตักอุ่นๆของพ่อแม่และ มีนิทานกับเสียงนุ่มๆ ของพ่อแม่ พอเด็กได้ฟังเด็กก็จะเป็นเพลินและหลับไปโดยมีมีนิทาน มีตักอุ่น เสียงนุ่มๆ ที่เป็นเหมือนยานอนหลับให้ลูกได้มีมีความสุขนั่นเอง”
นิทานสอนได้หลายอย่าง สอนเรื่องภาษา ศิลปะ จินตนาการ และเด็กมักจะมีจินตนาการที่มากกว่าผู้ใหญ่ ซึ่งผู้ใหญ่คิดไม่ถึงในจินตนาการของเด็ก ถ้าเราจะแยกจินตนาการ ก็เป็นจินตนาการแบบอิสระ และ จินตนาการแบบมิติสัมพันธ์
จินตนาการแบบอิสระก็คือ เด็กในวัยเล็กๆ1-2 ขวบ เด็กอาจจะยังไม่มีประสบการ์โดยตรง จินตนาการเด็กจะมีอิสระ จินตนการเรื่องอะไรก็ได้ที่เด็กได้ฟัง
จินตนาการแบบมิติสัมพันธ์ เด็กโตมากหน่อย ที่ผ่านประสบการณ์และเอาประสบการณ์ที่เค้าพบเห็น พอเราเล่านิทานอะไรให้ฟัง เค้าก็จะร้อง อ๋อ และนึกเชื่อมโยงไปได้ เพราะฉะนั้น นิทานหนึ่งเรื่องสามารถสอนเด็กได้หลายอย่าง
เลือกนิทานอย่างไรให้เหมาะกับเด็ก
การเลือกนิทานเราจะต้องเลือกนิทานที่ไม่ยาวมาก ต้องสั้นๆ มีความสนุก เพราะในนิทานเด็กต้องการความสนุก ความมหัศจรรย์ ตลกขบขัน เด็กต้องการเล่นกับตัวละคร และจินตนาการของเด็กเอง
<span “=””>สิ่งที่เราควรคำนึงในการเลือกนิทานคือ 1.ต้องสนุก 2.เด็กต้องมีส่วนร่วม 3.ต้องมีสาระ ไม่ต้องมากแต่นิทานเรื่องนั้นจะต้องสอนอะไรเด็กได้บ้าง
เคล็ดลับการเล่านิทานให้สนุก ทำอย่างไร
<span “=””>การเล่านิทานมีหลายรูปแบบ เล่าปากเปล่า เล่าโดยใช้สื่อ เล่าโดยใช้หนังสือ หรืออาจจะใช้ศิลปะเรื่องของดนตรี และก็สื่อใกล้ตัว ที่พอจะหยิบมาทำตัวละคร และดนตรีจะทำให้ตื่นเต้นมากขึ้น และถ้าใครร้องเพลงเป็น เล่นดนตรีเป็น ก็จะช่วยให้นิทานเรื่องนั้นๆสนุกมากยิ่งขึ้น
ถ้าคนเล่ามีความคิดสร้างสรรค์ แค่สวมถุงมือข้างเดียวเป็นตัวละครได้เยอะแยะเลย ถ้าใช้มือ ใส่ถุงมือเข้าไปเป็นปลาหมึก เป็นรูปอะไรก็ได้ สิ่งที่จะช่วยสร้างความสนุกจะอยู่ที่ถุงมือ ถ้าเอาถุงมือเข้ามาประกอบในการเล่านิทาน
นิทานกับโลกยุคใหม่
ถ้ามองย้อนไปในการช่วยให้เด็กมีพัฒนาการและมีจินตนาการนั้นมีโครงการ book start ให้พ่อแม่ที่ตั้งท้องเริ่มอ่านหนังสือให้ลูกฟังตั้งแต่ในท้อง เด็กก็จะซึมซับมาเรื่อยๆจนเด็กคลอดออกมา จนเด็กโต เด็กเหล่านี้จะมีพัฒนาการทางด้านภาษาดีกว่าเด็กที่พ่อแม่ไม่ได้อ่านตั้งแต่ตั้งท้อง
“ในปัจจุบันสื่อมีเยอะ และเครื่องมือเทคโลยีที่ทันสมัยก็เข้ามาเยอะแยะ ทีวีที่มีช่องที่มีการ์ตูนทั้งวัน ถ้าพ่อแม่ปล่อยให้เด็กอยู่กับทีวี เด็กก็จะติด และสิ่งเหล่านี้แหละที่จะดึงจินตนาการของเด็กหายไป หนังสือเด็กจะไม่สนใจจะไม่ค่อยจับ ถ้าพ่อแม่ปล่อยเด็กแบบนี้นานๆไปเด็กก็จะอยู่หน้าจอทีวี หน้าจอคอมพิวเตอร์ นานๆไปจินตาการเด็กจะน้อยลง ภาษาที่เค้าใช้ก็จะใช้ภาษาที่เข้ามาตามคอมพิวเตอร์ ภาษาวัยรุ่น ถ้าเป็นไปได้พ่อแม่ที่อยากพัฒนาเด็กหานิทานพื้นบ้าน ก็ได้ นิทานเล่มเล็กๆ ถ้าเด็กเล็กก็เลือกนิทานภาพ เพราะภาพจะทำให้เด็กสนุก และเล่านิทานให้เด็กฟังแค่วันละครั้งก่อนนอน เด็กก็จะติดนิสัยรักการอ่านขึ้นมาได้ทันที” พี่โก๋กล่าวทิ้งท้ายถึงความสำคัญของนิทาน
เพราะสื่อและเทคโนโลยีที่มาเร็วจนแทบจะตั้งแนวรบด้านข้อมูลข่าวสารแทบไม่ทันของทั้งโลกโซเชียลมีเดีย ว่าที่ทีวีดิจิตอลที่จะเกิดอีกไม่กี่ปี แต่ไม่ว่าโลกการสื่อสารจะเปลี่ยนแปลงไปมากมายแค่ไหน ลองเชื่อมสายใยรัก ด้วยการเล่านิทานสักเรื่องก่อนนอนให้ลูกได้ฟัง เชื่อว่าแนวรบด้านความอบอุ่นของครอบครัวยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
สุมาลี พะสิม // สัมภาษณ์
สวิชญา ชินพงศธร //- ถ่ายภาพ
สิรินาถ น้อยมูลศรี//เรียบเรียง
เริ่มเข้าหน้าหนาวบ้านไร่ก็น่าเที่ยว ๒ ปีมาแล้วที่คึกคักด้วยผู้คนสัญจรมาเที่ยวแบบผ่านทาง หรือบางทีก็ขอพักค้างอ้างแรมกางเต้นท์นอนบนดอย ซึมซับสายหมอกหยอกเอินสายลมหนาวบนแก่นมะกรูด แวะชมไม้ดอกเมืองหนาวที่พากันปลูกให้รื่นรมย์ เด็ดชิมสตรอเบอรี่ปลอดสารที่ไม่ไกลกรุงเทพในแปลงอินทรีย์ เป็นเหตุให้รถติดตั้งแต่หน้าอำเภอจนถึงบนดอยสูง ปรากฏการณ์ใหม่ที่ทำให้ชาวบ้านตื่นตัว ปีนี้ถือเป็นโอกาสคนในชุมชนตำบลบ้านไร่ จึงซุมหัวกับอบต.บ้านไร่ และคนทำงานด้านเกษตรปลอดสาร อย่างกลุ่มตลาดนัดซาวไฮ่ ชักชวนพี่น้องที่มีผลผลิตเป็นของตนเอง มาเปิดตลาดขายสินค้าท้องถิ่นที่อยู่ในไร่ในสวน ออกมาวางขายของดีบ้านไร่ให้คนท่องเที่ยว ชักชวนคนทำงานด้านวัฒนธรรมชุมชนมาออกแบบความคิด สร้างวิถีความงามให้เกิดขึ้นในตลาดร่วมมือร่วมใจแห่งนี้ ในชื่อ “ตลาดวัฒนธรรมบ้านไฮ่บ้านเฮา” เปิดตลาดให้แวะช็อป ชม ชิมกันเต็มอิ่ม ๓๐ ธันวาคม ปีนี้ จนถึง ๓ มกราคม ปีหน้า เริ่มต้นเดินเที่ยวในพื้นที่ตลาดนัดซาวไฮ่หน้าบ้านครูเคน เรื่อยมาจนถึงหน้าอบต.บ้านไร่ ข้ามฝั่งมาหน้าศูนย์โอทอปบ้านไร่ จนถึงบริเวณขนส่งบ้านไร่ เปิดตลาดสองข้างทาง วางสินค้าบ้าน ๆ ของชาวลาวครั่ง ให้แวะเวียนเที่ยวชมก่อนหรือหลังเที่ยวดอยสูง เปิดตลาดตั้งแต่เช้ายันค่ำ ใครอยากพักรถสามารถจอดพักแวะเข้าห้องน้ำได้อย่างสบาย มีที่จอดรถมากมาย ด้านในบริเวณอบต.บ้านไร่ มาแล้วจะได้อะไร? เดินแล้วจะเห็นอะไร? แต่ละโซนมีเรื่องราว แต่ละโซนมีคุณค่าของตนเอง ๑.โซนตลาดนัดซาวไฮ่ กลุ่มคนสวนลงมือทำเอง พากันนำผลผลิตเกษตรปลอดสาร ที่มีอยู่ในสวนมาให้เลือกชม […]
29 พ.ค. เยาวชนบางกอกนี้…ดีจัง และชุมชนวัดอัมพวา จัดกิจกรรม อัยย๊ะ เยาวชนเปิดท้าย สไตล์สื่อสร้างสรรค์ โดยรวมพลเยาวชนจาก 3 พื้นที่ นั่นคือบางพลัด บางกอกใหญ่ บางกอกน้อย เปิดท้ายสื่อสร้างสรรค์ บอกเล่าเรื่องดีๆ กิจกรรมดีๆ เด็กๆมีพื้นที่ได้เล่น ผู้ใหญ่มีพื้นที่ยิ้ม ขับเคลื่อนชุมชนให้มีชีวิต ด้วย 3 ดี สื่อดี พื้นที่ดี ภูมิดี โดยการสนับสนุนของเครือข่ายบางกอกนี้…ดีจัง มูลนิธิเพื่อนเยาวชนเพื่อการพัฒนา และสถาบันสือเด็กและเยาวชน ติดตามกิจกรรม https://www.facebook.com/profile.php?id=100005934120805&fref=photo
ปล่อยฝนและน้ำผ่านไป มีเรื่องราวอื่นที่ต้องเดินต่อ ลานข่อยเป็นพื้นที่ตำบลที่อยู่ใน อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง เป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติ มีเด็กหนุ่มสาวกลุ่มหนึ่งที่เรารู้จักจากค่ายเล็กๆ จากสมาชิกในค่าย เมื่อบ่มเพาะได้ที่ ก็พัฒนามาเป็นผู้จัดค่าย วันหนึ่ง ก็ยกระดับมาเป็นนักจัดการชุมชน พื้นที่สร้างสรรค์ สำหรับเด็ก เยาวชน พื้นที่นี้ ดีจัง…20 มค.60 นี้ พบกับ เขาและเธอ ใน “ลานข่อยปล่อยยิ้ม” ฟรีทุกกิจกรรม ลานเวที -การแสดงมโนราห์ “ ศาสตร์และศิลป์ถิ่นลานข่อย” -การแสดงโฟร์คซองของเยาวชน วงสภาClassic -การแสดงซายน์โชว์ จากนักเรียนโรงเรียนนิคมควนขนุนวิทยา ลานกิน -ขนมครก -ขนมพิม -ขนมจาก -ขนมโค -น้ำสมุนไพร -ขนมด้วง -ขนมไข่นกกระทา -สมุนไพรทอด -เมี้ยงคำ -น้ำแข็งใส -กล้วยทอด ลานเล่น -มีเกมมากมายให้เล่น -เกมเป่ากบ -แข่งเดินกะลา ลานสร้างสรรค์ -โปสการ์ดเดินทาง -ทำพวงมโหตร -นิทรรศการภาพเล่าเรื่อง ร่วมสนับสนุนกิจกรรมโดย… ล่องแก่งหนานมดแดง ผู้ใหญ่ฯสมพงษ์ […]
4 ก.ค. 58 มูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย และมูลนิธิเพื่อนเยาวชนเพื่อการพัฒนา ร่วมกันจัดทำโครงการโรงเรียน 3 ดี เพื่อสร้างพลเมืองในวิถีประชาธิปไตย และทางโครงการฯได้ขอพบผู้บริหาร ครู และนักเรียนแกนนำโรงเรียน 3 ดี ทั้ง 11 โรงเรียน เพื่อแนะนำโครงการ แผนกิจกรรม และกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นต่างๆ ภายในโครงการฯ และยังได้นำสื่อการเรียนรู้ใหม่ๆ โรลอัพความรู้ ไปมอบให้กับโรงเรียนไว้ใช้ในชมรมฯ อีกด้วย ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก มูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย